Monday, November 27, 2006

รวมเรื่องเด็ด "มหาลัย"



"คุณรู้ไหม!?"
เรื่องเด็ดๆ ประจำมหา´ลัย"

- มหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลกคือ มหาลัยโบลัญญ่า ที่กรุงโรม อิตาลี

- เทคโนลาดกระบัง เป็น ม.เดียวที่มีทางรถไฟตัดผ่านกลาง ม. และมีสถานีรถไฟเป็นของตัวเอง ชื่อว่าสถานีพระจอมเกล้า ซึ่งเกิดขึ้นโดยรุ่นพี่ช่วยลงแรงสร้างไว้

- คำว่า ไปสดใส ในความหมายของเด็ก ม. บูรพา คือไปกินข้าว เล่นเนต พิมพ์งาน เหล่หญิง

- หอหญิง สอง และ สาม ที่ ม.เชียงใหม่เป็นตึกรูปแปดเหลี่ยมและรูปสายฟ้าเพราะสร้างบนเมืองเก่าจึงออกแบบมาเพื่อแก้เคล็ด

- นศ.เอแบคที่จำเป็นต้องใส่รองเท้าแตะหรือหญิงที่ต้องการแต่งชายชายต้องการจะแต่งหญิง ต้องทำใบขออนุญาติจากทางมหาวิทยาลัย

- กระโปรงนิสิต ม. เกษตร รุ่นแรกๆ เป็นสีเขียว

-ม.ราชภัฏสวนดุสิตอนุญาติให้ผู้หญิงใช้สระว่ายน้ำได้เท่านั้น

- เมื่อก่อนไม่มีรั้วรอบ ม. รังสิต แต่มีรถจอดอยู่หน้ามหาลัย คนจึงคิดว่ารถนั้นเป็นรั้ว

- สัญลักษณ์ของคณะวิศวะ ม .มหิดล ไม่ใช่เกียร์แต่เป็นน้อตตัวเมีย

- มีความเชื่อว่าหากได้ลอยกระทงกับคนที่ชอบที่ จุฬา จะได้เป็นแฟนกันแต่ถ้าเป็นแฟนกันแล้วมาลอยจะเลิกกัน

- เพลงประจำของ ม. ศิลปากรเป็นภาษาอิตาลี - ม. รามคำแหง มีข้อแนะนำว่าวันที่ไปสมัครเข้าเรียน ไม่ควรมพาผู้ปกครองไปด้วย

- ม.เกษตรมีตำนานว่าถ้าหนุ่มสาวคู่ใหนขี่จักรยานผ่าน loving way ทางเล็กๆที่มีทิวสนเสริมความโรแมนติก ข้างทางคณะเษตรจะได้เป็นแฟนกัน แต่ถ้าเกิดหลงเข้าไปใน black way จะเลิกกันทันที

- โรงละคร แบลค บอกซ์ ที่ ม.กรุงเทพ เป็นโรงละครที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย

- นศ. ที่ ม. หอการค้าไทย เชื่อว่าห้ามสบตาเต่าในบ่อน้ำไม่งั้นจะเรียนไม่จบ

- ร้านน้ำชาสุดฮิตที่ ม. สงขลานครินทร์ชื่อ สวนลุงเจิม

- เชื่อว่าถ้าใครตกปลาที่บ่อน้ำของ ม. หัวเฉียวคนนั้นจะติด F

- โบราณว่าถ้าฝันเห็นพระเกี้ยวจะตื่นมาเจอหลักศิลาจารึก

- ม.รังสิตมีสนามกอล์ฟเป็นของตัวเอง

- รถโดยสารภายในจุฬาเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ป็อบ ซึ่งมีที่มาจาก รถปอ.พ ส่วนของ ม.เกษตร จะเรียกว่ารถตะลัย ซึ่งมีชื่อเรียกเต็มๆว่า รถตระเวณทั่วมหาลัย และที่ มช. จะเรียกว่า ขส.มช.

- ตำรวจจราจรคนหนึ่งที่หน้า ม. ราชภัฏสวนดุสิต ถูก นศ. เรียกกันว่าลุงโดเรมอน เพราะรูปร่างคล้าย

- ไข่ต้ม เป็นสิ่งที่ นศ. ม. สงขลานครินทร์นำมาแก้บนกับอนุสาวรีย์พระบิดา

- ห้องน้ำหญิงชั้นบนสุดของตึก เอ คณะวิศวะที่ลาดกระบังมีศาลพระภูมิอยู่ (จริงๆแล้วเป็นชั้น 5 นะ และไม่ใช่ศาลพระภูมิด้วยจ้า เป็นเหมือนศาลเพียงตา อันนี้เป็นตำนานอีกเรื่องที่เด็กวิดวะจะรู้กันดี ^^" )

- เชื่อว่าถ้าเหยียบเส้นที่ถนนตรงซุ้มแดงหน้าตึก สิบเก้า มอ.ปัตตานีจะเหมง(ไม่มีแฟน)

- การพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกของไทยจัดที่ห้องประชุมตึกบัญชาการหรือตึก หนึ่ง คณะอักษรศาตร์ จุฬา ในปัจจุบัน

Thursday, November 23, 2006

กำเนิดอักษรเบรลล์

"ที่มาแห่งอักษรเบรลล์"
อักษรเบรลล์ ถือว่าเป็นอักษรที่สำคัญมากในการสื่อสารระหว่างกันของผู้พิการทางสายตา แต่เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่า อักษรเลรลล์นั้น มีที่มาอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาฝากค่ะต้นกำเนิดอักษรเบรลล์เริ่มมาจาก เมื่อปี ค.ศ. 1812 เด็กชายหลุยส์ เบรลล์ อายุ 3 ขวบได้ประสบอุบัติเหตุ จนเป็นเหตุให้เขาพิการทางสายตา แต่เขาก็ยังใฝ่รู้เอามาก ๆ เขาเรียนรู้ในตัวอักษรต่าง ๆ ด้วยการนำกิ่งไม้มาต่อกันเป็นตัวอักษร
"ผู้คิดค้น"จนเมื่อเขาเข้าสู่วัยรุ่น เขาได้ข่าวว่ามีนายทหารฝรั่งเศสคนหนึ่งได้คิดค้นการปรุและขีดเป็นรอยอักษรบนกระดาษแข็ง เพื่อใช้สื่อสารกับทหารในกองทัพในยามค่ำคืน เรียกกันว่า "การเขียนในยามมืดมิด" (night writing) ข่าวดังกล่าวจุดประกายความคิด และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเบรลล์เป็นอย่างมาก เขาจึงเริ่มคิดประดิษฐ์อักษรปรุสำหรับให้คนตาบอดสัมผัสได้สำเร็จ และง่ายต่อการแยกแยะตัวอักษรแต่ละตัว เหตุนี้เอง อักษรดังกล่าวจึงมีชื่อเรียกตามผู้คิดค้นว่า "อักษรเบรลล์ (Braille) และหลังจากนั้นไม่นาน อักษรเบรลล์ก็กลายเป็นที่รู้จักทั่วในผรั่งเศส และขณะนี้ก็ขยายไปทั่วโลกแล้ว.

Monday, November 06, 2006

พระราชวังที่หรูหราที่ในโลก



พระราชวังแวร์ซายส์ : Palace of Versailles
สถานที่ตั้ง : กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ปัจจุบัน : สามารถเข้าเยี่ยมชมได้เป็นพระราชวังที่สวยงามมากสร้างขึ้นโดย พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส มีนายช่างสถาปนิก อัลเดรด เลอ นอสเตอร์ เป็นผู้ออกแบบ ลงมือสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2204 (ค.ศ. 1661) สร้างอยู่นาน เวลา 30 ปี สิ้นเงินค่าสร้าง 500,000,000 ฟรังก์ ใช้คนงาน 30,000 คน ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างและศิลปกรรมก่อสร้างที่งดงามมากภายในพระราชวังแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ เช่น มีห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ ห้องทรงพระอักษร ห้องโถง ห้องออกว่าราชการ ฯลฯ แต่ละห้องมีเครื่องประดับมีค่ามากมาย ทั้งวัตถุ และ ภาพเขียนศิลปะที่มีชื่อเสียง ห้องที่มีชื่อที่สุด คือ ห้องกระจกที่เคยใช้ลงนาม เซ็นสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตร กับเยอรมัน ในคราวมสงครามโลกครั้งที่ 1 และเป็นที่ใช้ลงนามในเมื่อเยอรมันบุกตีชนะฝรั่งเศส ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ในการทำสงครามใหญ่ทุกครั้งฝรั่งเศส จึงต้องประกาศให้ปารีสเป็นเมืองปลอดทหารคือ ไม่มีทหารตั้งอยู่ ไม่มีการต่อสู้ใด ๆทั้งสิ้น ทั้งนี้เพื่อรักษาไม่ให้พระราชวังแห่งนี้ ต้องได้รับความเสียหายจากการโจมตี ของข้าศึกไม่ว่าโดยทางใด ทุก ๆ ปีจะมีนัก ปจจุบันเป็นสถาปัตยกรรมมีค่าที่สุดของฝรั่งเศส และโลก ที่มีนักท่องเที่ยวไปชมความงามไม่น้อยกว่า 1,000,000 คน ต่อปี